
หลักสูตรซิมโฟนิคส์
หลักสูตรซิมโฟนิคส์
หลักสูตร Symphonics เป็นระบบการสอนภาษาอังกฤษที่มีลักษณะเฉพาะตัว ผสมผสานกับวิธีในการสร้างคำศัพท์ และไวยกรณ์โดยใช้การออกเสียง ระบบการสอนแบบใหม่นี้ ถูกออกแบบให้ออกเสียงได้ง่าย และช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ ได้ยิน และพูดด้วยจังหวะ สำเนียงของภาษาอังกฤษ เป็นระบบที่ผ่านการพิสูจน์จริงมาแล้ว ด้วยพื้นฐานการวิจัยทางจิตวิทยาและทางการศึกษา การเรียนการสอนแบบนวัตกรรมใหม่นี้ จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ
ระบบการเรียนการสอนแบบซิมโฟนิคส์ จะช่วยให้ผู้เรียน เข้าใจภาษาอังกฤษตามหลักธรรมชาติ ปัญหาของการออกเสียงที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คนไทยไม่กล้าที่จะพูด พูดไปแล้วกลัวว่าชาวต่างชาติจะไม่เข้าใจ คนรอบข้างจะหัวเราะเยาะบ้าง เป็นปัญหาที่คนไทยหลายคนเป็นอยู่ การเรียนการสอนแบบ Symphonics ซึ่งเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับผู้เรียน ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การออกเสียงในสำเนียงที่ถูกต้อง โดยอาจารย์ผู้สอนจะใช้หลักการจัดริมฝีกปากและการวางลิ้น และแนวทางการออกเสียงด้วยสำเนียงจริง ผู้เรียนจะเริ่มซึมทราบเสียงสำเนียงตั้งแต่ครั้งแรกและค่อยๆชัดขึ้น ชัดขึ้นในการเรียนแต่ละบทเรียน
ในหนังสือเรียนจะมีการถอดรหัสภาษาอังกฤษ โดยเขียนเป็นสระในภาษาไทยที่คนไทยคุ้นเคยกำกับไว้ตัวเล็กๆ ข้างใต้พร้อมทั้งรูปภาพที่สื่อความหมายให้ผู้เรียนเข้าใจ และสามารถฝึกอาจออกเสียงได้ด้วยตนเองอย่างถูกต้อง การเรียนภาษาอังกฤษนวัตกรรมแนว Symphonics ยังมี CD ที่ผู้เรียนสามารถนำไปฝึกต่อเองที่บ้าน เพื่อตรวจสอบพัฒนาการของตนเองได้
สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัวได้แก่ A E I O U ในขณะที่ภาษาไทยมีสระอยู่ 21 รูป ซึ่งสระในภาษาอังกฤษ 5 ตัวนี้สามารถสร้างเสียงที่แตกต่างกันได้ถึง 21 เสียงเช่นกัน โดยมีการนำเอาสระสองตัว สามตัว มาผสมเรียงกัน คล้ายคลึงกับภาษาไทยที่มีสระอยู่ 21 รูป เช่น EA = สระเอีย ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้เรียนภาษาอังกฤษคนไทยอย่างมากว่าควรออกเสียงอย่างไร
การเรียนการสอน Symphonics จะช่วยผู้เรียนให้สามารถเอาชนะกับปัญหานี้ได้ โดยในห้องเรียนครูผู้สอนจะมีแผ่นการ์ด ที่บนการ์ดจะมีการเขียนถอดรหัสภาษาออกเป็นส่วนๆ ช่วยฝึกให้ผู้เรียนออกเสียงได้อย่างถูกต้อง เมื่อผู้เรียนเริ่มออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ผลที่ตามมาก็คือการฟังสำเนียงของเจ้าของภาษาก็ง่ายขึ้น เข้าใจได้เร็ว เมื่อออกเสียงถูก ฟังจับใจความได้ การฝึกพูด ฝึกอ่าน ฝึกเขียน จึงตามมาเป็นขั้นตอนภายหลัง นี่คือการเรียนภาษาตามหลักธรรมชาติที่แท้จริง คุณลองนึกดู ในภาษาไทยเองเราสอนเด็กๆ หัดพูด เราสอนกันอย่างไร เราสอนให้เด็กๆฟังการออกเสียง และฝึกออกเสียงก่อนไม่ใช่หรือ